ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์
ผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1.ต้องอายุไม่เกิน 40 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568 (เกิดในวันที่หรือหลังวันที่ 2 ตุลาคม 2528)
2. จบการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไปและมีผลการเรียนระดับดีมาก
3. ต้องมีผลการสอบ TOEFL-iBT (Internet – based) อย่างน้อย 80 คะแนน หรือ IELTS อย่างน้อย 6 คะแนนในวันปิดรับสมัคร
4. เป็นผู้มีร่างกายแข็งแรงและสุขภาพอนามัยดีพอที่จะไปศึกษา ณ ต่างประเทศได้
5. มีประสบการณ์การทำงานด้านกฎหมายในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 4 ปี ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นการทำงานประจำในภาครัฐหรือเอกชนหลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว ทั้งนี้ ต้องเป็นข้าราชการตุลาการตั้งแต่ตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นขึ้นไปและรับราชการในตำแหน่งข้าราชการตุลาการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือข้าราชการศาลยุติธรรม ที่ดำรงตำแหน่งในสายงานด้านกฎหมายที่เริ่มต้นจากระดับปฏิบัติการขึ้นไป และรับราชการในสำนักงานศาลยุติธรรมมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 2 ปี ในวันปิดรับสมัครตามประกาศฉบับนี้
หากผู้รับทุนยังไม่เคยออกไปรับราชการในศาลภูมิภาค เพราะเหตุได้รับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศ หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว ผู้รับทุนต้องออกไปรับราชการในศาลภูมิภาคตามระเบียบคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง การเลื่อนตำแหน่ง การโยกย้ายแต่งตั้ง และการเลื่อนเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการตุลาการ พ.ศ. 2554
6. ไม่อยู่ระหว่างการรับทุนไปศึกษาต่อต่างประเทศจากแหล่งทุนอื่นใด ทั้งก่อนการสมัครและภายหลังการสมัคร
7. กรณีเคยได้รับทุนไปศึกษา ณ ต่างประเทศ จะต้องกลับมาปฏิบัติงานแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร และในกรณีที่เคยได้รับทุนไปฝึกอบรม ปฏิบัติการวิจัย หรือดูงาน ณ ต่างประเทศที่มีระยะเวลาเกินกว่า 1 เดือน จะต้องกลับมาปฏิบัติงานแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร
8.เป็นผู้ที่ไม่อยู่ในระหว่างถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย หรือถูกฟ้องคดีอาญา เว้นแต่ถูกฟ้องคดีอาญาในความผิดที่ไม่อยู่ในข่ายต้องรอการเลื่อนเงินเดือนตามกฎ ก.พ. และระเบียบ ก.ต. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน
9. เป็นผู้มีความเหมาะสมในการที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้แทนศาลยุติธรรมในการรับทุน
10. ผู้สมัครจะต้องรับรองว่าตนเองเป็นผู้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในการประกาศรับสมัครสอบจริง หากปรากฏในภายหลังว่าผู้สมัครรายใดมีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามประกาศการรับสมัครให้ถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้น
11. ผู้สมัครต้องได้รับคำรับรองจากผู้บังคับบัญชาว่าผู้สมัครเป็นผู้ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ มีความอุตสาหะเอาใจใส่ และอุทิศเวลาแก่งานในหน้าที่ และเป็นผู้มีความเหมาะสมในการที่จะได้รับทุน นอกจากนี้การลาศึกษาต่อนั้นจะไม่ส่งผลเสียต่องาน โดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นสำคัญ